วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557

3 วิธีลบออกข่าวสารให้หายสาบสูญวับไปจากไดรฟ์แบบเวอร์ๆ

จักเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่ทำยังไงดีให้ข้อมูลในลูกเก่าหายเกลี้ยง...?

เรื่องของการลบข้อมูลจากไดรฟ์นับเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งใน ปัจจุบัน ก็เพราะว่าไม่ว่าจักมีปางข้อมูลในองค์กร ที่ต้องมีการป้องกันพร้อมทั้งรักษาข้อมูลเพื่อความปลอดภัยพ่างอย่างเดียวเท่านั้น แต่ข้อมูลส่วนตัวของผู้คนทั่วไป ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะหลายคนเเลื่องกที่จะอัพเกรดด้วยการเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ ด้วยกันมักใช้วิธีซื้อมา ขายไป เรียกว่าได้ฮาร์ดดิสก์ลูกใหม่ ความจุมากหลายมา ก็เปลี่ยนเอาลูกเก่า ความจุน้อยออกไป เพื่อไม่ให้เป็นภาระของเครื่อง ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ที่อาจทำให้ข้อมูลที่มีอยู่หลุดไปสู่มือผู้อื่นโดยไม่ทันตั้งตัว
Pantip-ssd-hdd

ถ้าหากต้องการที่จะลบไฟล์ที่เป็นข้อมูลสำคัญ ก็คงต้องลงรายละเอียดให้ลึกหน่อย ยิ่งต่างว่าเป็นคนที่มีข้อมูลพันธุ์ภาพ วีดีโอไม่ใช่หรืออะไรก็ตามที่สำคัญ แล้วถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนมือผู้ครอบครอง เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่า ผู้ที่ได้ฮาร์ดดิสก์เราไป จะไม่ทำเป็นใช้โปรแกรมล้วงแคะแกะเกา เอาข้อมูลเก่าๆ มาใช้ได้ ก็ต้องหาโซลูชั่นที่เหมาะสม ให้เราอุ่นใจพร้อมกับปลอดภัยมากที่สุด ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ ก็มีรูปใช่ไหมวิดีโอที่เราเคยเก็บไว้โชว์หราอยู่บนอินเทอร์เน็ต เราเลยหาวิธีเด็ดๆ ที่แม้จักดูเวอร์ไปบ้าง แต่ก็เพื่อความสบายใจกับ 3 วิธีนี้
FileShredder-0

โปรแกรมลบข้อมูล
ในเบื้องต้น ด้วยว่าคนที่มีข้อมูลสำคัญอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงขนาดที่เรียกว่าซีเรียส เอาแบบว่าผู้คนที่ใช้งานตามบ้านทั่วไป แต่ก็ต้องการความปลอดภัยในการลบข้อมูลในระดับหนึ่ง ทางเลือกระฉ่อนกนี้ถือว่าค่อนข้างปลอดภัยพร้อมทั้งไม่ยุ่งยาก ด้วยวิธีการใช้ง่ายๆ แต่อาจต้องใช้การผสมสานกันไป ด้วยการลบไฟล์หลากวิธีคือ ใช้การลบไฟล์ด้วยตัวเอง คือ กด Shift + Delete
เหรออาจจะเเอิกเกริกกใช้โปรแกรมลบไฟล์ที่ปลอดภัยขึ้นด้วยการ Wipe หรือไม่ Shrede เพื่อทำลายไฟล์ให้แบบที่ไม่เชี่ยวชาญกู้ได้ง่ายๆ ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นการลบข้อมูลซ้ำๆ หลายรอบ แทนที่จะลบเท่ารอบเดียว สุดท้ายก็เป็นการ Delete Partition พร้อมกับตามด้วย Format เพื่อล้างข้อมูลตบท้าย
Degausser

อุปกรณ์ล้างสนามแม่เหล็ก Degausser
ในเวลาที่ต้องการความรวดเร็วพร้อมทั้งมั่นใจได้ว่าฮาร์ดดิสก์ลูกที่ใช้ ครั้งตกถึงมือใคร ก็จักไม่สมรรถนำข้อมูลออกมาได้ ซึ่งมีการใช้ทั้งในบริษัทพร้อมทั้งองค์กรที่ครอบครองข้อมูลอันสำคัญมากๆ เอาไว้ ข้อดีของการลบข้อมูลแบบนี้คือ ลบได้สะอาดหมดจดและรวดเร็ว ซึ่งทำเป็นลบได้หลายๆ ลูก ในเวลาไม่กี่นาที ด้วยวิธีกลับขั้วสนามแม่เหล็กภายใน Platter ของฮาร์ดดิสก์ เรียกว่าลบตั้งแต่ข้อมูล ไปจนถึงเฟิร์มแวร์ของฮาร์ดไดรฟ์ จนไม่ทำเป็นที่จักสแกนข้อมูลในแต่ละ Sector ออกมาใช้ได้อีกเลย
ข้อจำกัดก็คือ มีค่าใช้จ่ายกับตัวเครื่อง ซึ่งไม่ได้ถูกกับยังอาจจะไม่ได้ใช้งานกันบ่อยๆ อีกทั้งไม่เก่งนำฮาร์ดดิสก์กลับมาใช้ได้อีก ซึ่งใครที่กำลังมองหาโซลูชั่นการลบที่ค่าใช้จ่ายน้อยพร้อมด้วยยังต้องการ ฮาร์ดดิสก์ไว้ใช้ คงต้องเเอิกเกริกกโปรแกรมลบในข้อแรกแทน
Buffalo

ทำลายฮาร์ดดิสก์
พูดง่ายๆ คือ สมมติคุณไม่คิดว่าฮาร์ดดิสก์ที่มีข้อมูลเหล่านี้อยู่ ตกไปสู่มือของใครเหรอคิดว่าข้อมูลสำคัญภายในต้องถูกทำลายเพราะสิ้นเชิง แต่ไม่ไว้วางใจในโปรแกรมที่นำมาลบข้อมูลทิ้งไม่ก็ว่าไม่คิดจะลงทุนกับอุปกรณ์ ที่เปเล่าลืองค่าใช้จ่ายอย่าง Degausser แล้วล่ะก็ การทำลายด้วยวิธีต่างๆ อันเป็นการทำลายในระดับฮาร์ดแวร์ ไม่ว่าจักเป็นการทุบ กระแทก บดอัดหรือว่าการใช้สว่านเจาะเข้าไป ถือว่าเป็นวิธีที่เรียบง่ายสุดกับลดปัญหาเรื่องข้อมูลไปได้มากพร้อมทั้งใช้เวลาไม่ นาน แทบแต่อาจจะต้องเตรียมเครื่องมือเกี่ยวกับการทำลายเอาไว้บ้าง
แต่อย่างที่ประภาษไว้คือ เมื่อทำลายไปแล้วก็ไม่ทำได้นำกลับมาใช้ได้อีก ก็จะเป็นการสูญเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยเช่นกัน รวมถึงอย่าลืมว่าระหว่างนั้นควรสวมอุปกรณ์ป้องกันชิ้นส่วนที่หลุดกระเด็นเอา ไว้ด้วย งานนี้น่าจักเหมาะกับองค์กรที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายกับความมั่นใจในการทำลาย ข้อมูลเดิม เพื่อไม่ให้หลุดไปอยู่ในมือคู่แข่งได้ในอนาคต
WiseCare-Clear-Delete

ด้วยกระบวนการเหล่านี้ เป็นวิธีการที่ธรรมดาใช้กันทั่วไปพร้อมด้วยแบบที่โอเวอร์ไว้ เพราะด้วยใครที่ซีเรียส ก็คงต้องเเลื่องลือกกันดีๆ ว่าแบบไหนถึงจักเหมาะ เพราะบางอย่าง อาจไม่ได้จำเป็นเสมอไปหรือไม่ก็บางโอกาสเราเโจษจันกจัดสรรสิ่งที่เก็บไว้ ก็จะไม่ส่งผลกระทบให้กังวลใจในอนาคตได้นั่นเอง

สำหรับใครที่ต้องการเปลี่ยนคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่แบบยกเซ็ตก็ลองเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้งานกับฮาร์ดดิสก์เก่าของคุณก็ได้นะครับ คลิปจะได้ไม่รั่วไหล อิอิ

ที่มา: http://thaizones-hitech.blogspot.com/2014/10/3_29.html
ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยีรอบโลกได้ที่นี่ >>> http://thaizones-hitech.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น